เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ฉะเชิงเทรา – สุดผวา ! ยอดป่วยโควิด-19 เมืองแปดริ้วพุ่งถึง 357 รายในวันเดียว พบเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรามากสุดจำนวน 299 ราย ขณะที่สถานการณ์ในเรือนยังจำน่าเป็นห่วงหลังยอดผู้ต้องขังติดเชื้อใกล้แตะ 100 %
วันนี้ ( 14 มิ.ย.) ศูนย์ข้อมูลข่าวสารโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ว่ามีมากถึง 357 ราย พบเป็นผู้ป่วยจากการติดเชื้อภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา จำนวน 299 ราย และผู้ป่วยทั่วอีก 46 ราย นอกจากนั้นยังมีรายงานตัวเลขผู้ป่วยในเรือนจำที่ถูกนำตัวส่งต่อรักษายังโรงพยาบาลภายนอกพื้นที่จำนวน 12 ราย
ส่งผลให้ภาพรวมยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ จ.ฉะเชิงเทรา นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมามีจำนวนทั้งสิ้น 3,894 ราย เสียชีวิตสะสมจำนวน 14 ราย โดยมีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาจำนวน 1,983 ราย รักษาหายแล้ว 1,987
ส่วนข้อมูลจากโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ในวันนี้มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 2,209 ราย จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,680 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 82.42 เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษา 1,524 ราย รักษาหายแล้ว 653 ราย โดยมีผู้ต้องขังที่ยังไม่ติดเชื้อแค่เพียง 471 คนเท่านั้น
เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกตุ๋นค่ารักษาโรคโควิด-19 จากญาติผู้ต้องขัง
ด้าน น.ส.สมสกุล แอลเฟรด รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา เผยว่าจากกรณีที่มีสำนักข่าวบางแห่งรายงานข่าวว่ามีผู้แอบอ้างตัวเป็นผู้คุมโทรศัพท์ไปข่มขู่ญาติของผู้ต้องขังให้โอนเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 9,000 บาทนั้น
จากการตรวจสอบพบว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงและยังเป็นเรื่องโอละพ่อ เนื่่องจากเป็นเรื่องที่หญิงสาวรายหนึ่งหลอกยืมเงินจากทางญาติโดยอ้างว่าจะนำไปโอนให้แก่ผู้คุมขัง เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลสามีที่ถูกจำคุก ซึ่งในความเป็นจริงมิได้มีการโอนเงินตามที่กล่าวอ้าง
และยืนยันว่าปัจจุบันนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดที่กล้ากระทำการณ์เช่นนี้ และหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงผู้กระทำก็จะต้องถูกสอบสวนและลงโทษทางวินัยร้ายแรงเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยวอย่าง
“ ขณะนี้ทางเรือนจำ ได้ออกประกาศผ่านไปทางแอปพลิเคชั่นไลน์เพื่อให้ญาติผู้ต้องขังทราบว่าการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ไม่มีค่าใช้จ่าย เช่นเดียวกับกรณีการขอพักโทษหรือลดโทษที่ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เช่นกัน แตที่ผ่านมากลุ่มมิจฉาชีพมักใช้เรื่องดังกล่าวหลอกลวงเรียกเงินทองจากญาติผู้ต้องขัง จึงขอยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน “ น.ส.สมสกุล กล่าว